อาการปวดและชาตามร่างกาย ทั้งที่แขน ขา มือ หรือเท้า มักสร้างความรำคาญและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น การกดทับเส้นประสาท, หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท, อาการชาจากเบาหวาน หรือแม้แต่ Office Syndrome หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาที่ทันสมัยและไม่ต้องผ่าตัด การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

PMS คืออะไร?

Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มสูง ส่งผ่านไปยังบริเวณเส้นประสาทและกล้ามเนื้อที่ต้องการรักษา คลื่นนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทในระดับลึก ช่วยฟื้นฟูการนำส่งสัญญาณของเส้นประสาทและลดความไวของเส้นประสาทที่ผิดปกติ

ข้อดีของวิธีนี้คือ เป็นการรักษาแบบ ไม่รุกล้ำ (Non-invasive) และ ไม่เจ็บปวด ผู้ป่วยจะรู้สึกเพียงแค่การสั่นหรือการเคาะเบา ๆ บริเวณที่ทำ

PMS ช่วยรักษาอาการปวดชาได้อย่างไร?

• ลดอาการปวด: คลื่นแม่เหล็กจะเข้าไปปรับการทำงานของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวด ทำให้ความรู้สึกปวดลดลง
• ลดอาการชา: ช่วยฟื้นฟูเส้นประสาทที่ถูกทำลายให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการชาที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับหรืออักเสบ
• เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ: ในกรณีที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือจากเส้นประสาทถูกทำลาย PMS จะช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อในระดับลึก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการฟื้นฟูและการทำกายภาพบำบัด
• กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: คลื่นแม่เหล็กช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ทำการรักษา ทำให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนมากขึ้นและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ใครที่เหมาะกับการรักษาด้วย PMS?

การรักษาด้วย PMS เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเหล่านี้:

• ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังและอาการชา: เช่น Office Syndrome, หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
• ผู้ป่วยที่มีอาการปวดปลายประสาท: จากโรคเบาหวาน
• ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต: ที่ต้องการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว
• ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง: หรือกล้ามเนื้อหดเกร็ง
• ผู้ที่ต้องการรักษาอาการปวด: โดยหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือการผ่าตัด

ขั้นตอนการรักษาด้วย PMS

การรักษาใช้เวลาสั้นและสะดวกสบาย โดยทั่วไปจะใช้เวลาเพียง 10-20 นาทีต่อครั้ง ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้า แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดจะนำหัวเครื่อง PMS ไปวางบนบริเวณที่ต้องการรักษา และจะรู้สึกถึงแรงกระตุ้นเบา ๆ ที่ผิวหนัง การรักษามักจะทำเป็นคอร์ส โดยจำนวนครั้งและระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย

หากคุณกำลังประสบปัญหาอาการปวดชาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาด้วยPMS เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า การรักษานี้จะช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข